วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

มารู้จักกับ Chia Seeds เมล็ดเจีย/เมล็ดเชีย


เมล็ดเจีย หรือ เมล็ดเชีย สิ่งเล็กๆที่ไม่ควรมองข้าม
หากเอ่ยถึงเรื่องสุขภาพแน่นอนว่าสมัยนี้ผู้คนต่างรักและห่วงใยในสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้มีการศึกษาวิจัยเรื่องอาหาร อาหารเสริมหรือธัญพืชต่างๆขึ้นมามากมาย รวมทั้งเมล็ดเจียหรือที่บางคนเรียกว่าเมล็ดเชีย ซึ่งเจ้าเมล็ดที่ว่านี้ถึงจะมีรูปร่างเล็กเหมือนเมล็ดแมงลักแต่คุณประโยชน์ไม่เล็กเลย วันนี้เราจะมาทำความรู้จักเจ้าเมล็ดเจียโดยละเอียดกัน…


ลักษณะและความเป็นมาของเมล็ดเจีย (หรือเมล็ดเชีย)
เมล็ดเจียหรือเมล็ดเชีย (Chia Seed) นั้น จัดเป็นพืชในกลุ่มเครื่องเทศตระกูลเดียวกับมินต์หรือกะเพรา มีถิ่นกำเนิดทางตอนกลางและใต้ของประเทศเม็กซิโก และกัวเตมาลา เป็นพืชที่มาอายุมากกว่า 3,500 ปีก่อนคริสตกาล จัดเป็น Super Food ระดับโลกเลยทีเดียว เป็นพืชที่นิยมรับประทานกันทั่วโลกด้วยเพราะขึ้นชื่อในด้านการลดน้ำหนักและประโยชน์มหาศาลที่อยู่ในเมล็ดเล็กๆนี้
  • พลังงานทั้งหมด 137 kcal
  • พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต 50 kcal
  • พลังงานจากไขมัน 72.1 kcal
  • พลังงานจากโปรตีน 15.2 kcal
  • คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 12.3 กรัม
  • โปรตีน 4.4 กรัม
  • เส้นใยอาหาร 10.6 กรัม
  • ไขมันทั้งหมด 8.6 กรัม
  • ไขมันอิ่มตัว 0.9 กรัม
  • ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 0.6 กรัม
  • ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 6.5 กรัม
  • กรดไขมันโอเมก้า3 4915 กรัม
  • กรดไขมันโอเมก้า6 1620 กรัม
  • แคลเซี่ยม 177 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 265 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 44.8 มิลลิกรัม
  • โซเดียม 5.3 มิลลิกรัม
  • สังกะสี 1.0 มิลลิกรัม
  • ทองแดง 0.1 มิลลิกรัม
  • แมงกานีส 10.6 กรัม
  • คอเลสเตอรอล 0.0 มิลลิกรัม
  • น้ำ 1.4 กรัม
  • เถ้า(ash) 1.4 กรัม
  • ที่มา : http://www.seedguides.info/chia-seeds/
  • มีโอเมก้า3 มากกว่าปลาแซลมอนถึง 8 เท่า(เทียบที่น้ำหนักเท่ากัน)
  • มีแมกนีเซียมเป็น 15เท่าของบล็อกโคลี่
  • มีแคลเซียมเป็น 5เท่าของนม
  • มีธาตุเหล็กมากเป็น 3เท่าของผักโขม
  • มี แอนตี้ออกซิแดนท์มากเป็น 3เท่าของบลูเบอร์รี่
  • และยังอุดมไปด้วยวิตามิน A B D E 
  • มีไฟเบอร์/กากใยและโปรตีนจากมูซีเลตสูง ฯลฯ





เมล็ดเจียมีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Salvia Hispanica L. ลำต้นสูงประมาณ 4 – 6 ฟุต มีสีดำและสีขาว เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศหนาวเย็น นิยมปลูกมากในทวีปอเมริกา เป็นเม็ดเล็กๆเปลือกนอกสามารถพองตัวได้เหมือนเม็ดแมงลัก ส่วนในประเทศไทยจังหวัดที่สามารถปลูกได้คือ ลำปางและกาญจนบุรี เป็นต้น ด้วยลักษณะของเมล็ดเจียที่ดูเผินๆอาจคิดว่าเป็นเม็ดแมงลัก ซึ่งในความจริงเป็นพืชคนละชนิดกัน สามารถสังเกตได้คือเมล็ดเจียนั้นจะเรียวรี สีน้ำตาลเทา เมื่อแช่น้ำจะพองตัวมีลักษณะใส ส่วนเม็ดแมงลักนั้นจะมีสีดำเข้ม แช่น้ำแล้วจะพองตัวลักษณะเป็นเมือกสีขาวขุ่น
นอกจากนี้ในเมล็ดเจียที่เห็นเมล็ดเล็กๆอย่างนี้ แต่แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าอัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางอาหารไว้ข้างในอย่างมากมาย ได้แก่ โปรตีน พลังงาน น้ำ ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ซิงก์ โซเดียม วิตามินเอ วิตามินบี 1 ถึงบี 3 และบี 6 ตลอดจนโฟเลต กรดไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว เป็นต้น ที่สำคัญในเมล็ดเจียนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นตัวช่วยลดน้ำหนักได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย นับได้ว่าเมล็ดเจียเป็นทั้งพืชอาหารและพืชสมุนไพรไปพร้อมกันในตัว
เมล็ดเจียเพียง 1 ออนซ์ (28 กรัม) อุดมด้วยสารอาหาร ดังต่อไป

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าเมล็ดเจียนั้นมีสารอาหารดีๆอยู่มากมายเช่น


ประโยชน์มากมายของ "เมล็ดเจีย"

เสริมสร้างความจำ
เนื่องจากกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีสูงกว่าปลาแซลมอน 9 เท่า จะช่วยบำรุงการทำงานของระบบประสาทและสมองให้เป็นปกติยิ่งขึ้น ดังนั้น จึงส่งผลให้สมองของเรามีความจำดีและมีสมาธิในสิ่งที่ทำมากขึ้นค่ะ
ป้องกันโรคเบาหวานประเภท 2
ใครที่กลัวจะเป็นโรคเบาหวาน โดยเฉพาะเบาหวานประเภทที่ 2 รู้มั้ยคะว่าการรับประทานเมล็ดเจียนั้นจะช่วยให้คุณมีสุขภาพดีห่างไกลจากโรคเบาหวานประเภทนี้ได้ เพราะมันเป็นธัญพืชที่ให้คาร์โบไฮเดตรต่ำแต่เปี่ยมไปด้วยไฟเบอร์สูง โดยจะช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดได้ดียังไงล่


ช่วยให้แผลหายเร็ว ลดการติดเชื้อง่าย
กรดไขมันโอเมก้า-3 จากเมล็ดเจียจะสามารถเปลี่ยนมาเป็นสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งออกฤทธิ์ช่วยแก้อาการอักเสบและช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อของบาดแผล ทำให้แผลหายขึ้นเร็วและไม่ทิ้งภาวระเรื้อรังไว้อีกด้วยค่ะ


บำรุงหัวใจให้แข็งแรง
ในเมล็ดเจียมีกรดไขมันดีโอเมก้า-3 และ -6 ที่จะช่วยปรับการไหลเวียนเลือดให้สมดุลจึงสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดลง ทำให้มีแต่เลือดดีไหลเวียนไปสู่หัวใจ จึงช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงมากขึ้นได้นั่นเอง
“เมล็ดเจีย” สรรพคุณทางยาเลอค่า ส่งตรงเพื่อ


ปรับสมดุลของระบบเผาผลาญพลังงาน
ใครที่อยากผอมหรือลดน้ำหนักได้ผลมากขึ้น กินเมล็ดเจียแล้วไม่ผิดหวังค่ะ เพราะมันมีไฟเบอร์ โปรตีนและกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งล้วนแล้วแต่จะช่วยปรับสมดุลของระบบเผาผลาญพลังงานให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นนั่นเอง


ไกลจากโรคกระดูกพรุน
แร่ธาตุจากเมล็ดเจียมีความจำเป็นในกระบวนการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงมากขึ้น ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัสและโปรตีน สารอาหารเหล่านี้มีส่วนสำคัญยิ่งนักกับการช่วยป้องกันการเกิดกระดูกพรุนและช่วยลดภาวะกระดูกบางลงได้อีกด้วย


ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
เพราะเมล็ดเจียมีไฟเบอร์สูงประมาณ 34.4 กรัม นับว่ามากเพียงพอสำหรับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน และไฟเบอร์สูงนี่เองที่จะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ปกติมากขึ้น


ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
ภายในร่างกายของเรามีเนื้อเยื่อและเซลล์ต่างๆ ที่สึกหรออยู่แล้ว แต่การกินเมล็ดเจียที่เปี่ยมด้วยโปรตีนและแร่ธาตุฟอสฟอรัสเป็นประจำมันจะช่วยบำรุงและซ่อมแซ่มเซลล์ที่สึกหรอภายในร่างกายต่างๆ ได้ดีค่ะ

เมล็ดเจียกับการรับประทาน
การรับประทานเมล็ดเจียนั้นสามารถรับประทานได้ทั้งแบบอาหารคาว อาหารหวาน หรือจะทำเป็นเครื่องดื่มก็ได้ อาจใส่ทานกับสลัดผัก สปาเกตตี้ หรือพวกพิซซ่า ก๋วยเตี๋ยว ก็ได้ ตลอดจนโรยหน้าไอศกรีม โยเกิร์ต ซีเรียลอาหารเช้า หรือแม้กระทั่งใส่ในน้ำผลไม้ ชาหรือกาแฟได้อีกสารพัดตามใจชอบ
- เมล็ดเจียจะช่วยดูดซึมของเหลว อุดมด้วยไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ เมื่อทานเข้าไปจะไปพองตัวในกระเพาะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นนั่นเอง คล้ายกับเม็ดแมงลัก ที่คนไทยรู้จักกันอย่างดีว่าช่วยในการลดน้ำหนักได้
- ไฟเบอร์จะค่อยๆ ถูกย่อยไปทีละน้อย ทำให้เรารู้สึกอิ่มทนนาน ไม่หิวเร็ว
- เมล็ดเจียช่วยลดน้ำหนักได้ดีเยี่ยมสำหรับคนที่ชอบรับประทาน ช่วยคงคุณค่าของสารอาหารไว้
- ข้อดีและเด่นที่สุดของเมล็ดเจียในการลดน้ำหนักก็คือ ปกติเวลาที่เราลดน้ำหนัก เราจะทานอาหารน้อยกว่าปกติ ทำให้เราได้สารอาหารที่มีประโยชน์น้อยลงไปด้วย อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารดีๆที่จำเป็นในการดำรงชีวิต แต่ในเมล็ดเจียที่ได้ชื่อว่าเป็น super food นั้นมีสารอาหารดีๆมากมาย ทำให้ร่างกายเราขาดแคลนสารอาหารที่จำเป็นน้อยลง แต่ทางที่ดีก็ต้องทานอาหารที่มีสารอาหารทั่วๆไปควบคู่ไปด้วย
เหมาะสำหรับ ทุกคนในครอบครัว
ปริมาณที่แนะนำในการทาน เมล็ดเชีย/เมล็ดเจีย
-ผู้ใหญ่ - 15 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ).ต่อวัน
-เด็กอายุ (5-18 ปี) - 1.4 ถึง 4.3 กรัมต่อวัน (1 ช้อนโต๊ะ) ต่อวัน
------------------------------------


เมล็ดเจียลดอ้วนได้จริงหรือ?



เมล็ดเจียไม่เหมาะกับใคร?
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในระบบกระเพาะอาหารและลำไส้
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคแพ้โปรตีนในธัญพืช (กลูเตน)
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ทำศัลยกรรม และประวัติแพ้ยาแอสไพริน
- ในผู้ชายหากรับประทานมากเกินไปอาจเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ไม่เหมาะกับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์
- ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตต่ำ เพราะอาจทำให้ช็อกหรือหมดสติไปได้
- ไม่ควรรับประทานร่วมกับวิตามินบี 17 ติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจสะสมเป็นสารพิษขึ้นในร่างกายก่อเกิดโรคมะเร็งได้
แนะนำผลิตภัณฑ์
Vever วีเวอร์.....ดีเวอร์
เราคือผู้จัดจำหน่าย เมล็ดเชีย/เมล็ดเจีย ธัญพืชออแกนิค100% สายพันธ์ดีที่สุดจากประเทศแม็กซิโก

เมล็ดเจียออแกนิคตามมาตรฐานUSDA ทุกเมล็ดคัดสรรมาอย่างดี มั่นใจว่าสะอาด ปลอดภัย ไร้สารเคมี


Chia Seeds by Vever เมล็ดเชีย/เมล็ดเจีย
ปริมาณ150g. ราคา199฿
Promotion 
ซื้อ 5 ฟรี 1



www.veverthailand.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น